กระดูกสันหลังเคลื่อนในวัยทำงาน เกิดจากพฤติกรรมอะไร ชี้จุดง่ายที่เห็นชัด!

อาการปวดหลังอาจดูเป็นเรื่องธรรมดาของxxxทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ แต่ถ้าอาการปวดนั้นเริ่มรุนแรงจนร้าวลงขาหรือมีอาการชาลามไปถึงปลายเท้า นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน ซึ่งเป็นภาวะที่ข้อต่อกระดูกสันหลังหลุดเลื่อนออกจากตำแหน่งปกติและอาจไปกดทับเส้นประสาทได้ แม้ว่าในอดีตโรคนี้จะพบมากในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันกลับพบว่ากลุ่มวัยทำงานมีอัตราการเป็นโรคนี้สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จนหลายคนต้องตัดสินใจเข้าพบ แพทย์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง เพื่อหาทางรักษาอย่างจริงจังก่อนที่ร่างกายจะรับไม่ไหว

ทำความรู้จักภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อนในxxxทำงาน
ภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis) คือการที่กระดูกสันหลังข้อหนึ่งเลื่อนมาด้านหน้าหรือด้านหลังมากกว่าปกติ ส่งผลให้ความมั่นคงของแนวสันหลังเสียไป ในกลุ่มวัยทำงานมักเกิดจากความเสื่อมของข้อต่อกระดูกสันหลังก่อนวัยอันควร หรือเกิดจากการบาดเจ็บซ้ำๆ จากการทำงานหนัก ซึ่งอาการมักจะเริ่มจากปวดหลังส่วนล่างเมื่อต้องยืนหรือเดินนานๆ และจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้นั่งพักหรือนอนขดตัว

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้xxxทำงานเผชิญโรคนี้
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เราทำจนชินตา เป็นตัวการสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพหลังโดยตรง ดังนี้
• การนั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไปโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้กล้ามเนื้อหลังล้าและกระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป
• การยกของหนักผิดท่า โดยใช้แรงจากหลังแทนที่จะใช้แรงจากขาและสะโพก ทำให้เกิดแรงกระชากที่ข้อต่อกระดูก
• การก้มเงยบ่อยๆ หรือการเอี้ยวตัวอย่างรวดเร็วในการหยิบสิ่งของ
• ภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ ซึ่งทำให้กระดูกสันหลังส่วนล่างต้องแบกรับภาระหนักอยู่ตลอดเวลา
• การขาดการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscle)

สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณควรรีบพบแพทย์
หลายคนมักซื้อยาแก้ปวดมากินเอง แต่ภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน หากทิ้งไว้นานอาจส่งผลเสียถาวร หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษา แพทย์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง เพื่อประเมินความรุนแรงและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
• ปวดหลังร้าวลงไปที่สะโพก ต้นขา หรือน่อง
• มีอาการชาหรือรู้สึกเหมือนเข็มทิ่มบริเวณเท้าและนิ้วเท้า
• กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เดินได้ระยะทางสั้นลงกว่าเดิมมาก
• มีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระในกรณีที่อาการรุนแรงมาก

แนวทางการรักษาจากเบาไปหาหนัก
เมื่อพบ แพทย์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง แพทย์ไม่ได้แนะนำให้ผ่าตัดเสมอไป ในระยะเริ่มต้นอาจเน้นการรักษาแบบประคับประคองเพื่อลดความปวดและเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกาย
• การทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังให้ช่วยพยุงกระดูกสันหลัง
• การใช้ยาลดการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อภายใต้การดูแลของแพทย์
• การฉีดยาลดการอักเสบเข้าที่โพรงประสาท (Epidural Steroid Injection) เพื่อลดความเจ็บปวดในระยะเฉียบพลัน
• การผ่าตัดจะถูกพิจารณาเป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อการรักษาข้างต้นไม่ได้ผล หรือมีการกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต

วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันกระดูกสันหลังเลื่อมก่อนวัย
การป้องกันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่าการรักษา โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ยังสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันที
• ปรับระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์และเก้าอี้ทำงานให้เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์
• ลุกขึ้นยืดเหยียดร่างกายทุกๆ 1 ชั่วโมงเพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ
• ออกกำลังกายประเภทโยคะหรือว่ายน้ำ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นและแข็งแรงให้แนวกระดูกสันหลัง
• ควบคุมอาหารและน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเสมอ

แนวทางรับมือเมื่อมีปัญหากระดูกสันหลัง
ภาวะ กระดูกสันหลังเคลื่อน ในวัยทำงานไม่ใช่เรื่องที่ควรเพิกเฉย เพราะหลังคือแกนกลางของร่างกายที่ช่วยให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามต้องการ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่หากเริ่มมีอาการผิดปกติที่ส่งผลต่อการเดินหรือมีอาการปวดร้าวลงขา การปรึกษา แพทย์ผ่าตัดกระดูกสันหลัง เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดตั้งแต่นเนิ่นๆ จะช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไม่ต้องรอจนถึงขั้นวิกฤต